English version |
ราชสกุล “กฤดากร” คือราชสกุลที่สืบเชื้อสายมาจากพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 อันประสูติแต่เจ้าจอมมารดาซ่อนกลิ่น (กลิ่น) ธิดาในพระยาดำรงราชพลขันธ์ เจ้าเมืองพระประแดง ซึ่งสืบเชื้อสายจากพญาเจ่ง หรือเจ้าพระยามหาโยธา (เจ่ง) ต้นสกุล "คชเสนี" อดีตเจ้าเมืองเตริน พระอนุชาในพญาทะละ เจ้าเมืองมอญแห่งอาณาจักรหงสาวดี ที่อพยพเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารในสมัยธนบุรีเมื่อปี พ.ศ. 2317 เจ้าพระยามหาโยธา (เจ่ง) เป็นขุนนางมอญคนสำคัญในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 และทายาทในตระกูลนี้ล้วนแล้วแต่รับราชการสนองพระเดชพระคุณแผ่นดินไทยในระดับสูงหนุนเนื่องกันมาทุกยุคสมัย เจ้าจอมมารดาซ่อนกลิ่นมีความสำคัญ ในฐานะผู้ให้กำเนิดพระราชโอรสโทนในรัชกาลที่ 4 ซึ่งสืบเชื้อสายต่อมาเป็นราชสกุล “กฤดากร” ซึ่งล้วนแต่เป็นสมาชิกในราชวงศ์ หรือลูกหลานพระจอมเกล้าที่ “ไม่ธรรมดา” และก็สมควรที่จะต้องนับ “เจ้าจอมมารดาซ่อนกลิ่น” เป็นหนึ่งในความไม่ธรรมดานี้ด้วย เจ้าจอมมารดาซ่อนกลิ่น --- เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2378 ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 เป็นธิดาในพระยาดำรงราชพลขันธ์ ผู้เป็นหลานพญาเจ่ง และเป็นเจ้าเมืองพระประแดง เป็นผู้ได้ชื่อว่าเป็นผู้เกิดก่อนกาล เป็นสตรีในสยามคนแรกๆ ที่ได้เรียนภาษาอังกฤษและประสบ ความสำเร็จเป็นอย่างดี ศึกษาอย่างแตกฉานกระทั่งสามารถแปลนวนิยายภาษาอังกฤษเรื่อง “กระท่อมน้อยของลุงทอม” (Uncle Tom’s Cabin) ของมิสซีสฮาเรียต บิชเชอร์สโตว์ (Mrs. Harriet Beecher Stowe) ได้สำเร็จ อีกทั้งยังมีความคิดอันทันสมัย คำนึงถึงคุณค่าความเป็นมนุษย์ สนับสนุนการตอบแทนค่าจ้างแรงงานแทนการใช้แรงงานทาส
|
กรมพระนเรศรวรฤทธิ์ฉายพระรูปพร้อม
|
ที่สำคัญ มีความคิดที่จะปลดปล่อยทาสให้เป็นอิสระเหมือนตัวละครของมิสซีสฮาเรียตซึ่งการรณรงค์ให้เลิกค้าทาสและปลดปล่อยทาสเป็นอิสระเป็นกระแสที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในโลกตะวันตกเวลานั้นและเจ้าจอมมารดาซ่อนกลิ่นก็ได้ปฏิบัติตามแนวคิดนั้นด้วยการจ่ายเงินเดือนให้กับพวกทาสรับใช้ในวังของตนเดือนละ 4 บาท รวมทั้งมอบเสื้อผ้า อาหาร ตลอดจนของมีค่าเช่นทองคำรูปพรรณฝีมือตนเองเป็นของขวัญสงกรานต์ (ปีใหม่) ด้วย ซึ่งคงไม่อาจปฏิเสธได้ว่า แนวคิดเช่นนี้ยังคงร่วมสมัยในปัจจุบัน ในยุคที่ผู้คนยังมีความคิดความเชื่อแบบดั้งเดิม ไม่นิยมให้มีการวาดรูปหรือสร้างรูปเหมือนตนเองก่อนเสียชีวิตเนื่องจากมีความเชื่อเรื่องโชคลาง แต่เจ้าจอมมารดาซ่อนกลิ่นกลับเปิดรับความคิดเรื่องการถ่ายภาพและสร้างรูปเหมือนอันยังประโยชน์แก่ชนรุ่นหลังที่จะได้รู้จักลักษณะหน้าตาของบรรพชนในอดีต ประการสำคัญ เจ้าจอมมารดาซ่อนกลิ่นยังเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเมืองท้องถิ่น โดยได้กราบบังคมทูลขอต่อรัชกาลที่ 4 เพื่อให้แต่งตั้งพี่ชายของตนขึ้นดำรงตำแหน่งเจ้าเมืองพระประแดงต่อจากบิดา เป็นผลให้ได้รับพระอาญาถึงจองจำระยะหนึ่ง นอกจากนี้ เจ้าจอมมารดาซ่อนกลิ่นยังมีวิธีการอบรมเลี้ยงดูบุตรหลานด้วยแนวคิดสมัยใหม่และเก่าผสมผสานกัน เช่น เป็นผู้ติดต่อสะใภ้ให้บุตรชายทั้ง 3 คน และล้วนเป็นมอญทั้งสิ้น ได้แก่ หม่อมสุภาพ (มอญพระประแดง) หม่อมแช่ม (มอญสมุทรสาคร) และหม่อมเจิม (มอญราชบุรี) ปลูกฝังให้ลุกหลานใกล้ชิดพุทธศาสนา ขณะเดียวกันก็เปิดโอกาสให้เรียนรู้เท่าทันโลก บุตรหลานจึงล้วนเป็นลูกไม้ที่หล่นไม่ไกลต้น ต่างยึดมั่นในพุทธศาสนา วัฒนธรรมประเพณีอันดี และมีจินตนาการก้าวไกล เชื่อมั่นในความคิดของตนเอง นอกจากรับผิดชอบในหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้วยังริเริ่มสิ่งใหม่ต่อยอดความคิดได้อย่างน่าชื่นชม ดังจะเห็นได้ว่า บุตรหลานสายตระกูลเจ้าจอมมารดาซ่อนกลิ่นต่างเติบโตในหน้าที่การงานและล้วนเป็นที่ยอมรับในสังคม ดังทราบกันดีว่า เจ้าจอมมารดาซ่อนกลิ่นและบุคคลในราชสกุลกฤดากรนี้ล้วนสนิทสนมใกล้ชิดในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ตั้งแต่ยังไม่ทรงขึ้นครองราชย์ ที่มักไปสำราญพระราชอิริยาบถยังตำหนักตากอากาศของตระกูลกฤดากรที่ชายทะเลหัวหินอยู่เนืองๆ นอกจากพระองค์นับถือในน้ำใจเจ้าจอมมารดาซ่อนกลิ่นแล้ว ยังติดใจกับข้าวมอญฝีมือเจ้าจอมมารดาซ่อนกลิ่นอีกด้วย และภายหลังตระกูลกฤดากรก็ได้แบ่งพื้นที่ถวายแด่ในหลวงรัชกาลที่ 7 กระทั่งถือกำเนิดเป็น “วังไกลกังวล” ในเวลาต่อมา
จากรามัญคดี - MON Studies
|